ภาพ : National Archives of Australia |
สวัสดีทุกคนผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกการรีวิวแหล่งเก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญของประเทศออสเตรเลีย กับสถานที่ที่มีชื่อว่า หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย (National Archives of Australia) ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับประวัติความเป็นมาแบบสั้นๆของหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย
หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย ถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี 1944 ภายใต้สังกัดของหอสมุดแห่งชาติออสเตรเลียโดยมีชื่อเดิมคือ สำนักหอสมุดแห่งชาติ ต่อมาก็ได้แยกตัวออกจากสำนักหอสมุดแห่งชาติประเทศออสเตรเลียในเดือนมีนาคม 1997 และภายหลังได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น หอจดหมายเหตุออสเตรเลีย ในปี1975 ต่อมาในปี 1983 ก็ได้รับการให้ความคุ้มครองทางกฎหมายเพื่อเครือจักรภพในครั้งแรก ร่วมกับหอสมุดของออสเตรเลียที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลเกี่ยวกับจดหมายเหตุ และในเดือนกุมภาพันธ์ 1998 หน่วยงานแห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นอกจากจะมีสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติที่แคนเบอร์ราในเมืองหลวงของออสเตรเลียแล้วยังมีสำนักงานและห้องอ่านหนังสือในแต่ละเมืองหลวงของรัฐ ได้แก่
South Australia - Adelaide ออสเตรเลียใต้ - แอดิเลด
Queensland - Brisbane ควีนส์แลนด์ - บริสเบน
Northern Territory - Darwin ดินแดนทางเหนือ - ดาร์วิน
Tasmania - Hobart แทสมาเนีย - โฮบาร์ต
Victoria - Melbourne วิกตอเรีย - เมลเบิร์น
Western Australia - Perth ออสเตรเลียตะวันตก - เพิร์ธ
New South Wales - Sydney นิวเซาท์เวลส์ – ซิดนีย์
ขอบเขตของหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย
หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย ถือเป็นความทรงจำของประเทศออสเตรเลีย
ซึ่งได้มีการจัดเก็บรักษาบันทึกสำคัญของรัฐบาลออสเตรเลียไว้อย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงหลักฐานการตัดสินใจและการกระทำของรัฐบาล เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ บันทึกของหอจดหมายเหตุมีหน้าที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในประเทศ รำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตให้มีสำนึกร่วมและช่วยปกป้องประชาธิปไตยของประเทศ
หน้าที่ของหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย
หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลียมีหน้าที่เก็บรักษาเอกสารสำคัญของรัฐบาลออสเตรเลียจากประวัติศาสตร์ของประเทศโดยส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าถึงเอกสารเหล่านี้
ที่นี่เก็บเอกสารไว้ทุกอย่างตั้งแต่ตัวบทกฎหมายของรัฐบาลไปจนถึงพิมพ์เขียวและใบยื่นขอจดสิทธิบัตรต่างๆ ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการถาวร รวมถึงนิทรรศการพิเศษ การอบรมให้ความรู้ และการบรรยายพิเศษที่จัดขึ้นเป็นประจำ
หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลียมีหน้าที่เก็บรักษาเอกสารสำคัญของรัฐบาลออสเตรเลียจากประวัติศาสตร์ของประเทศโดยส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าถึงเอกสารเหล่านี้
ที่นี่เก็บเอกสารไว้ทุกอย่างตั้งแต่ตัวบทกฎหมายของรัฐบาลไปจนถึงพิมพ์เขียวและใบยื่นขอจดสิทธิบัตรต่างๆ ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการถาวร รวมถึงนิทรรศการพิเศษ การอบรมให้ความรู้ และการบรรยายพิเศษที่จัดขึ้นเป็นประจำ
ปัจจุบัน หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลียมีบุคลากรที่ดำเนินงานประมาณ 404 คน โดยมี David Fricker ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย
บริการของหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย
หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย มีบริการห้องอ่านหนังสือเพื่อศึกษาหาความรู้ มีระบบการค้นหาออนไลน์ก่อนที่จะมาใช้บริการยังมีบริการสั่งจองเอกสารเตรียมไว้ล่วงหน้าได้ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึงบันทึกทางการทหาร ข้อมูลลับที่ได้รับการเปิดเผยแล้ว แบบฟอร์มการเข้าและออกประเทศ รวมถึงเอกสารอื่นๆ นอกจากนี้หอจดหมายเหตุแห่งนี้ยังมีนิทรรศการหมุนเวียนตลอดทั้งปีที่นำเสนอหัวข้ออันหลากหลายตั้งแต่แฟชั่น มานุษยวิทยา ไปจนถึงการเมือง เป็นต้น
เยี่ยมชมหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย
ความน่าสนใจที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย คือโซน Federation Gallery ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการก่อตั้งประเทศออสเตรเลีย มีการรวบรวมบันทึกเหตุการณ์เป็นเอกสารและการตัดสินใจที่ก่อตั้งประเทศ การจัดทำเอกสารของผู้ว่าการรัฐ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี มีเอกสารคณะรัฐมนตรี ไฟล์ค่าคอมมิชชัน และบันทึกแผนกต่างๆเกี่ยวกับการป้องกันการเข้าเมืองการรักษาความปลอดภัย รวมถึงข่าวกรองการแปลงสัญชาติและปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลออสเตรเลีย ตลอดจนภาพถ่ายและข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ทรงอิทธิพล สิ่งประดิษฐ์ และเหตุการณ์ต่างๆ
ถัดไปเป็นโซน Discovering Mildenhall’s Canberra เป็นจุดชมภาพถ่ายที่ถ่ายโดย W.J. Mildenhall ช่างภาพที่ได้รับหน้าที่ให้บันทึกเหตุการณ์การก่อสร้างเมืองหลวง ผนังของ Faces of Australia แสดงภาพถ่ายประชาชนจากทั่วประเทศในยุคเฟื่องฟูหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พักจิบกาแฟที่คาเฟ่ซึ่งมีการจัดแสดงเกี่ยวกับหนังสือที่เคยถูกห้ามเผยแพร่ในออสเตรเลียอีกด้วย
RMP กับความจำเป็นต่อองค์กร
หอจดหมายเหตุออสเตรเลีย นับเป็นส่วนหนึ่งของ RMP (Records Management Programe) ในฐานะที่ทำหน้าที่ในการเก็บรักษาเอกสารต่างๆ ที่สะท้อนถึงความเป็นไปของชาติบ้านเมืองทุกด้าน เช่น การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ การศึกษา ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นต้น โดยอยู่ในหลายรูปแบบ อาทิ เอกสารลายลักษณ์ ภาพถ่าย แผนที่ แบบแปลน วีดิทัศน์ ทั้งนี้เอกสารเหล่านี้ ยังคงมีคุณค่าอย่างต่อเนื่องในการเป็นหลักฐานอ้างอิงการดำเนินงาน ของผู้ผลิตเอกสาร และเป็นหลักฐานในการเป็นข้อมูลเพื่อศึกษาค้นคว้าวิจัยต่างๆด้วย
หากไม่มี RMP (Records Management Programe) ที่ทำหน้าที่ดังข้างต้น ในปัจจุบันหรืออนาคตเอกสารหรือของโบราณทุกชิ้นที่มีคุณค่าเหล่านั้นอาจจะกลายเป็นแค่แผ่นเอกสารที่เปล่าประโยชน์และไร้คุณค่า ผู้คนอาจจะไม่รู้ถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมาของบ้านเมือง เศรษฐกิจ สังคม หรือการศึกษาของประเทศ เพราะเอกสารทุกฉบับล้วนมีคุณค่าและความสำคัญต่อประเทศชาติทั้งสิ้น
Cr. google map |
ที่อยู่ : National Archives ,Kings
Avenue, Parkes ACT 2600
พิกัด : https://goo.gl/maps/RLxMW7oqmdXLketB6
หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย ตั้งอยู่ที่ ควีนวิกตอเรียเทอร์เรซ ใกล้กับรัฐสภาเก่า มีบริการที่จอดรถฟรี 2 ชั่วโมง หรือสามารถใช้ที่จอดรถแบบคิดค่าบริการที่ Federation Mall สำหรับผู้ที่วางแผนจะเข้ามาใช้บริการเป็นเวลานาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหอจดหมายเหตุ
เวลาทำการ : เปิด 9.00 น. ถึง 17.00 น. ปิดวันหยุดราชการ
อินเทอร์เน็ตไร้สาย : Wi-Fi ฟรี
ที่จอดรถ : มีที่จอดรถจักรยานยนต์และที่จอดรถสำหรับผู้พิการ ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตที่เครื่องขายตั๋ว มีบริการรถบัสและรถแท็กซี่ที่จุดรับบริการที่ด้านหน้าอาคาร
สำหรับการรีวิวการพาเยี่ยมชมหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่สำคัญของประเทศออสเตรเลียต้องจบลงแต่เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบล็อกการรีวิวในครั้งนี้ และหากใครที่ได้ไปที่ประเทศออสเตรเลียก็ขอฝากหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย สถานที่แห่งนี้ไว้เป็นอีกหนึ่งการเยี่ยมชมของทุกท่าน และหากคณะผู้เขียนได้หาข้อมูลหรือให้ข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ แล้วพบกันใหม่กับการรีวิวในครั้งต่อไป ขอบคุณค่ะ
อ้างอิงภาพ : https://www.expedia.co.th/National-Archives-Of-Australia-Capital-Hill.d6086765.Place-To-Visit
อ้างอิงบทความ :
https://en.wikipedia.org/wiki/National_Archives_of_Australia
https://trove.nla.gov.au/?q=
https://www.naa.gov.au/
บทความโดย : นันทนา หนาซุย,สไมพร อุทัยเรือง,เอเซีย พงษ์สุวรรณ