ที่มาภาพ : http://warkahpaktua.blogspot.com/2013/05/13-mei-1969-sejarah-hitam-malaysia.html |
Peristiwa 13 Mei หรือ ความขัดแย้งระหว่างชาวมลายูกับจีน
13 พฤษภาคม 1969 เกิดจากการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งคะเเนเสียงของพรรคฝ่ายค้านที่คนจีนสนับสนุนมีเพิ่มมากกว่าชาวมาเลเซีย ทำให้ชาวจีนจำนวนมากออกมาเดินขบวนเพื่อเเสดงความดีใจตามท้องถนนในเมืองใหญ่ การเเสดงออกของคนจีนเป็นไปอย่างคึกคะนองและกล่าววาจาเยาะเย้ยชาวมาเลเซีย การกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่ชาวมาเลเซีย
ที่มาภาพ : https://lepetitjournal.com/kuala-lumpur/actualites/labordage-de- lhistoire-que-sest-il-passe-le-13-mai-1969-87401 |
ที่มาภาพ : https://www.menara.my/mati-melayu-sakai -masuk-hutan-membedah-laporan-tragedi-13-mei-1969/ |
จากความคึกคะนองของคนจีนทำให้สมาชิกพรรค UMNO รวมตัวออกมาประท้วงจนเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นและได้บานปลายไปตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิตหลายคน จน ตนกู อับดุล ราห์มาน ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากการใช้ นโยบายภูมิบุตร ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ตนกู อับดุล ราห์มาน พื่อสนับสนุนชาวมาเลเซียให้ได้สิทธิพิเศษต่างๆ เหนือคนจีน แนวคิดนี้เริ่มทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ของมลายูเป็นใหญ่และมีอำนาจเหนือชาติพันธุ์อื่น
ที่มาภาพ : http://peristiwa13meipengajianmalaysia.blogspot.com/2015/10 /pengajaran-peristiwa-13-mei-1969.html |
ซึ่งนโยบายนี้เป็นการลดความยากจนและปรับโครงสร้างทางสังคมให้ชาวมาเลเซียมีบทบาทเท่าเทียมคนจีน จากที่แต่ก่อนชาวมาเลเซียตกเป็นบุคคลชั้นสองรองจากชาวจีนในสมัยอาณานิคมอังกฤษ เมื่อ ตนกู อับดุล ราซัค เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน จึงได้ประกาศ นโยบายเศรษฐกิจใหม่ (NEP) เพื่อลดความยากจนของทุกชาติพันธุ์และปรับโครงสร้างทางสังคมโดยใช้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อลดช่องว่างระหว่างสองเชื้อชาติ
ที่มา :
https://www.matichonweekly.com/scoop/article_9840
https://prachatai.com/journal/2014/05/53364
บทความ : Dek-South East