![]() |
การเชิญธงชาติอินโดนีเซียขึ้นสู่ยอดเสาครั้งแรกในพิธีประกาศเอกราช ที่มาภาพ : https://th.wikipedia.org/wiki/ |
7 สิงหาคม 1949 อินโดนีเซียได้รับเอกราชจากฮอลันดา โดยมี ซูการ์โน ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนแรก อินโดนีเซียเข้าสู่ยุคใหม่ในการพัฒนาความเป็นชาติเรียกว่ายุค ประชาธิปไตยแบบชี้นำ ซูการ์โนได้นำนโยบายนี้มาเป็นแกนกลางในการบริหารประเทศ แต่ก็ประสบกับปัญหามากมายทั้งด้านเศรษฐกิจ การเพิ่มจำนวนประชากร การฉ้อราษฏ์บังหลวง จนเกิดการต่อต้านจากระชาชนหลายกลุ่ม ซูการ์โนจึงประกาศใช้กฏอัยการศึก ซึ่งทำให้ทหารเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้น
![]() |
ซูฮาร์ |
![]() |
ซูการ์โน |
เมื่อซูฮาร์โตนำประเทศเข้าสู่ค่ายสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ การเมืองและเศรษฐกิจก็เริ่มผันผวนอย่างมาก อีกทั้งประธานาธิบดีไม่สนใจแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังบวกกับเลิกคบหากับประเทศตะวันตกทั้งหมด เป็นผลให้พรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย (PKI) เป็นพรรคที่เข้มแข็งที่สุด ด้วยความตระหนกถึงภัยคอมมิวนิสต์ส่งผลให้นาย ซูฮาร์โต ก่อการรัฐประหารพร้อมกับปราบปรามคอมมิวนิสต์อย่างถอนรากถอนโคน เรียกเหตุการณ์นี้ว่า เกสตาปู (G30S) หรือ ขบวนการ 30 กันยนยน
![]() |
ที่มาภาพ http://program.thaipbs.or.th/Artclub/episodes/35826 |
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ซูฮาร์โตช่วยบุกเบิกยุคใหม่ให้กับอินโดนีเซีย โดยมีกองทัพเป็นผู้มีบทบาทในการบริหารประเทศ ในยุคของซูฮาร์โตได้มีการสร้าง ระเบียบใหม่ เพื่อเสถียรภาพทางการเมือง โดยเเยกประชาชนออกจากกิจกรรมทางการเมืองทั้งหมด ในยุคระเบียบใหม่ของซูฮาร์โตได้ส่งเสริมสวัสดิการของข้าราชการพร้อมบังคับให้ข้าราชการจงรักภักดีต่อรัฐ ยึดหลักกฎหมายเพื่อความชอบธรรม มีการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะเวลา 5 ปี ตามแนวทางทุนนิยม ใช้กองทัพอินโดนีเซียค้ำจุนอำนาจรัฐ ทั้งนี้ซูฮาร์โตได้เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทหารและผู้ใกล้ชิดประธานาธิบดีและบบรรดาเครือญาติ ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีความมั่งคั่ง
อย่างไรก็ตามซูฮาร์โตก็อยู่ในตำแหน่งนานถึง 32 ปี อินโดนีเซียเริ่มให้มีการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2004 โดยมีนายซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงซึ่งแตกต่างจากหลายครั้งที่ผ่านมาที่เป็นแบบสืบทอดอำนาจ จนถึงปัจจุบันอินโดนีเซียมีประธานาธิบดี 7 คน โดยมีนายโจโก วีโดโด ยังคงดำรงตำแหน่งอยู่
บทความ : Dek-South East
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น